ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+ สำหรับ ธุรกิจเล็กและกลาง (ปิดการขายแล้ว)
ประกันสุขภาพกลุ่ม 5UP/5UP+ คือ โซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ให้คุณดูแลพนักงานได้อย่างครอบคลุมด้วยแผนประกันที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่า เพราะการมีสวัสดิการสุขภาพที่ดีจะช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจและดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+ คืออะไร?
ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+ คือ แผนประกันสุขภาพกลุ่มที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่มีพนักงานตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปถึง 19 คน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถมอบสวัสดิการด้านสุขภาพที่ครอบคลุมแก่พนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความคุ้มครองที่หลากหลายและเบี้ยประกันที่เข้าถึงได้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลให้กับพนักงานและสร้างขวัญกำลังใจให้ในการทำงานด้วยสวัสดิการที่ดี

ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+ มีจุดเด่นอะไรบ้าง?
- เหมาะสำหรับธุรกิจ SME
- เริ่มต้นเพียง 5 คน ก็สามารถทำประกันกลุ่มได้
- มีแผนความคุ้มครองให้เลือกหลากหลายระดับ เพื่อให้เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของแต่ละองค์กร
- ช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาลของพนักงานและนายจ้าง
- การมีสวัสดิการที่ดีช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของพนักงาน
- ช่วยให้พนักงานสามารถเข้ารับการรักษาในเครือข่ายโรงพยาบาลและคลินิกที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
- มีกระบวนการสมัครและการจัดการกรมธรรม์ที่ง่ายและสะดวกสบาย
- เสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร แสดงถึงความใส่ใจและห่วงใยในสวัสดิภาพของพนักงาน ช่วยดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพได้
- สามารถเพิ่มความคุ้มครองเสริมได้ เช่น ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก (OPD), ทันตกรรม, คลอดบุตร เป็นต้น

แผน AIA 5UP/5UP+
| ความคุ้มครอง | ผลประโยชน์ | แผน 1 (Plan 1) | แผน 2 (Plan 2) | แผน 3 (Plan 3) | แผน 4 (Plan 4) | แผน 5 (Plan 5) | แผน 6 (Plan 6) |
| การเสียชีวิต (Life Insurance) | การเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ (Loss of Life by Sickness or Accident) | 100,000 | 200,000 | 300,000 | 400,000 | 500,000 | 600,000 |
| การประกันภัยอุบัติเหตุและทุพพลภาพ (Accidental Death & Disablement) | การเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทั่วไป (Loss of Life by Accident in General) | 100,000 | 200,000 | 300,000 | 400,000 | 500,000 | 600,000 |
| การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณะ* (Loss of Life in Public Accident) | 200,000 | 400,000 | 600,000 | 800,000 | 1,000,000 | 1,200,000 | |
| การสูญเสียอวัยวะ แขน ขา หรือสายตาหนึ่งข้างหรือสองข้าง (Loss of One or the Permanent Total Loss of Use of One Limb) | 100,000 | 200,000 | 300,000 | 400,000 | 500,000 | 600,000 | |
| การสูญเสียสายตาของดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง (Loss of Sight of One Eye) | 100,000 | 200,000 | 300,000 | 400,000 | 500,000 | 600,000 | |
| การสูญเสียความสามารถในการพูดและการได้ยินของหูทั้งสองข้าง (Loss of Speech and Hearing of both Ears) | 100,000 | 200,000 | 300,000 | 400,000 | 500,000 | 600,000 | |
| การสูญเสียความสามารถในการพูด (Loss of Speech) | 50,000 | 100,000 | 150,000 | 200,000 | 250,000 | 300,000 | |
| การสูญเสียสายตาเพียงข้างเดียว (Permanent Total Loss of One Eye) | 50,000 | 100,000 | 150,000 | 200,000 | 250,000 | 300,000 | |
| การทุพพลภาพโดยสิ้นเชิงถาวรเนื่องจากอุบัติเหตุ นาน 12 เดือน (Total & Permanent Disability by Accident for 12 consecutive months) | 100,000 | 200,000 | 300,000 | 400,000 | 500,000 | 600,000 | |
| ประกันภัยทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร (Total & Permanent Disability) | การทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร หรือ เจ็บป่วยต่อเนื่องติดต่อกันเกิน 180 วัน (Total & Permanent Disability by an Accident or Sickness for 180 consecutive days from the date of Accident or Sickness) | 100,000 | 200,000 | 300,000 | 400,000 | 500,000 | 600,000 |
| ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน | ค่าห้องและค่าอาหารต่อวัน (สูงสุดไม่เกิน 31 วัน) | 1,000 | 1,500 | 2,000 | 2,500 | 3,000 | 3,500 |
| ค่าห้องและค่าอาหารผู้ป่วยไอ.ซี.ยู. (สูงสุดไม่เกิน 7 วัน) | 2,000 | 3,000 | 4,000 | 5,000 | 6,000 | 7,000 | |
| รวมสูงสุดไม่เกิน 31 วันต่อการเจ็บป่วยหนึ่งครั้ง | – | – | – | – | – | – | |
| ค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ (Other Hospital Services – OHS) | 20,000 | 30,000 | 40,000 | 50,000 | 60,000 | 70,000 | |
| ค่าแพทย์ผ่าตัด (แบบประเมินค่าผ่าตัด – Surgical Benefit – SBI) | 20,000 | 30,000 | 40,000 | 50,000 | 60,000 | 70,000 | |
| ค่าเยี่ยมของแพทย์ต่อวัน (สูงสุดไม่เกิน 31 วัน) | 700 | 900 | 1,200 | 1,450 | 1,700 | 2,000 | |
| ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกฉุกเฉิน (กรณีอุบัติเหตุ) ต่อการบาดเจ็บแต่ละครั้ง | 4,000 | 5,000 | 6,000 | 6,000 | 6,000 | 6,500 | |
| ค่าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค (รวมอยู่ในค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ หรือค่าแพทย์ผ่าตัดแล้วแต่กรณี) | 4,000 | 5,000 | 6,000 | 6,000 | 6,000 | 6,500 | |
| ค่าปรึกษาแพทย์แบบผู้ป่วยนอกต่อเนื่องหลังจากรักษาตัวในโรงพยาบาล (1 ครั้งต่อวัน และสูงสุด 5 ครั้งต่อการเจ็บป่วยหนึ่งครั้ง) (ภายใน 3 เดือนหลังจากออกจากโรงพยาบาล) | 600 | 800 | 1,000 | 1,200 | 1,500 | 2,000 |
ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+ ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+ ของ AIA ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมสำหรับพนักงานของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยทั่วไปแล้วจะประกอบด้วยความคุ้มครองหลักและสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ ดังนี้
ความคุ้มครองหลัก
- กรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ รวมถึงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณภัย ซึ่งอาจให้ความคุ้มครองเป็น 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- คุ้มครองการสูญเสียอวัยวะและการทุพพลภาพ อย่างการสูญเสียการใช้งานแขนหรือขา การมองเห็น หรือการได้ยินโดยสิ้นเชิงถาวร รวมถึงการทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร
- ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเมื่อต้องนอนโรงพยาบาล รวมถึงค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าผ่าตัด และค่าธรรมเนียมแพทย์
ความคุ้มครองทางเลือก (สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้)
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการพบแพทย์ ตรวจวินิจฉัย และค่ายาโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
- ครอบคลุมโรคร้ายแรงที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ (เช่น 40 โรคร้ายแรง)
- ค่าทันตกรรม สำหรับบริการด้านทันตกรรม เช่น ตรวจสุขภาพช่องปาก ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน เป็นต้น
คุณสมบัติของกลุ่มธุรกิจที่สามารถสมัคร ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+
ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+ มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีคุณสมบัติดังนี้
- ต้องมีจำนวนพนักงานประจำตั้งแต่ 5 ถึง 19 คน
- ธุรกิจนั้นต้องไม่มีกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มสวัสดิการพนักงานที่มีความคุ้มครองประเภทเดียวกันและยังมีผลบังคับอยู่กับ AIA ณ ปัจจุบัน
- ต้องเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงไม่สูงกว่าระดับอาชีพขั้น 2 (ส่วนใหญ่คือพนักงานออฟฟิศ หรือพนักงานที่ทำงานในลักษณะที่ไม่เสี่ยงอันตราย)

เกณฑ์การสมัครร่วมเป็นสมาชิก
สำหรับพนักงานที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกในแผนประกันกลุ่ม 5UP/5UP+ มีเกณฑ์ดังนี้
- ต้องเป็นพนักงานประจำขององค์กร
- มีอายุตั้งแต่ 15 ปี และไม่เกิน 64 หรือ 65 ปี ณ วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ
- อายุเฉลี่ยของพนักงานทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการจะต้องไม่เกิน 45 ปี
- พนักงานที่มีสิทธิ์เอาประกันภัยทั้งหมดจะต้องกรอกใบสมัครและแบบแถลงสุขภาพตามฟอร์มของบริษัท
- นายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบชำระเบี้ยประกันภัยของพนักงานทั้งหมด
ข้อกำหนดในการสมัครประกันสุขภาพกลุ่มให้แก่คู่สมรสและบุตรของพนักงาน
นายจ้างสามารถเลือกที่จะขยายความคุ้มครองประกันสุขภาพกลุ่มไปถึงคู่สมรสและบุตรของพนักงานได้ ภายใต้ข้อกำหนดดังนี้
- หากนายจ้างต้องการขยายความคุ้มครองให้คู่สมรสและบุตร พนักงานที่มีคู่สมรสและบุตรที่มีสิทธิ์เอาประกันภัยทุกคนจะต้องสมัครเข้าร่วมแผนประกันนี้
- คู่สมรสและบุตรที่มีสิทธิ์เอาประกันภัยจะต้องสมัครเอาประกันภัยภายใต้แผนความคุ้มครองเดียวกับพนักงาน (สำหรับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและโรคร้ายแรงเท่านั้น)
- คู่สมรสมีสิทธิ์เอาประกันภัยได้หากอายุไม่เกิน 65 ปี
- บุตรมีสิทธิ์เอาประกันภัยได้ตั้งแต่อายุ 2 สัปดาห์ และไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ หรืออาจขยายได้ถึง 23 ปีบริบูรณ์ หากยังคงสถานะเป็นนักเรียน/นักศึกษาเต็มเวลาและยังไม่ได้แต่งงาน
- ทั้งนี้คู่สมรสและบุตรที่มีสิทธิ์เอาประกันภัยทั้งหมดจะต้องกรอกแบบแถลงสุขภาพตามแบบฟอร์มของบริษัท
เงื่อนไขสำหรับการรับประกัน ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+
| รายละเอียด | เงื่อนไข |
| จำนวนพนักงาน | ธุรกิจต้องมีพนักงานประจำตั้งแต่ 5 – 19 คน |
| ประเภทธุรกิจ | ธุรกิจทั่วไปที่ความเสี่ยงไม่สูงกว่าระดับอาชีพขั้น 2 (ส่วนใหญ่คือสำนักงาน/ออฟฟิศ หรือกิจการที่พนักงานไม่ได้ทำงานที่มีความเสี่ยงสูง) |
| อัตราการเข้าร่วม | พนักงานประจำทุกคนที่มีสิทธิ์ต้องสมัครเข้าร่วมโครงการ ไม่สามารถเลือกบางคนได้ |
| อายุพนักงาน | พนักงานมีอายุระหว่าง 15 – 65 ปี ณ วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ |
| อายุเฉลี่ยพนักงาน | อายุเฉลี่ยของพนักงานทั้งหมดที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ต้องไม่เกิน 45 ปี |
| สัดส่วนเพศ | (มักจะไม่มีการกำหนดสัดส่วนเพศที่ตายตัว แต่จะมีผลต่อเบี้ยประกันรวม) |
| ประวัติสุขภาพ | ไม่ต้องตรวจสุขภาพ สำหรับพนักงานทุกคน แต่ต้องมีการแถลงสุขภาพตามแบบฟอร์มของบริษัท |
| ประวัติเคลม | (สำหรับกลุ่มที่เคยมีประกันกลุ่มมาก่อน อาจมีผลต่อเบี้ยประกัน หรือการพิจารณารับประกัน แต่สำหรับ 5UP/5UP+ มักจะเน้นที่กลุ่มใหม่ที่ยังไม่มีประกันกลุ่มเดิม) |
| กรมธรรม์เดิม | ธุรกิจต้องไม่มีกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มสวัสดิการพนักงานที่มีความคุ้มครองประเภทเดียวกันและยังมีผลบังคับอยู่กับ AIA ณ ปัจจุบัน |
| การพิจารณา | บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณารับประกันตามดุลยพินิจของบริษัทฯ โดยพิจารณาจากข้อมูลที่ได้รับจากใบสมัครและแบบแถลงสุขภาพ |
ข้อมูลที่ควรทราบเพิ่มเติม
ระยะเวลารอคอย
ระยะเวลารอคอย (Waiting Period) คือ ช่วงเวลาที่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถเคลมสินไหมได้ แม้จะเกิดเหตุการณ์ที่คุ้มครองขึ้นก็ตาม โดยทั่วไปสำหรับประกันสุขภาพกลุ่ม 5UP/5UP+ จะมีระยะเวลารอคอยดังนี้
- 30 วัน สำหรับการเจ็บป่วยทั่วไป ในระยะนี้ผู้เอาประกันภัยจะไม่สามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลสำหรับการเจ็บป่วยใด ๆ ที่เกิดขึ้นภายใน 30 วันนับจากวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ได้
- 120 วัน สำหรับโรคเรื้อรัง หรือโรคที่เป็นมาก่อน (เช่น เนื้องอก, ถุงน้ำ, มะเร็ง, ริดสีดวงทวาร, ไส้เลื่อน, ต้อเนื้อ/ต้อกระจก, การผ่าตัดทอนซิล/อดีนอยด์, เส้นเลือดขอดที่ขา, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่)
การเลือกแผนประประกัน
นายจ้างจะเป็นผู้เลือกแผนความคุ้มครองหลักและแผนความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับพนักงานทุกคนในกลุ่มเดียวกัน โดยพนักงานทุกคนในกลุ่มจะต้องได้รับความคุ้มครองภายใต้แผนเดียวกันและจำนวนเงินเอาประกันภัยเท่ากัน เพื่อความเป็นมาตรฐานและลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการ
แม้จะเป็นแผนมาตรฐาน แต่ AIA 5UP/5UP+ ก็มีตัวเลือกความคุ้มครองที่หลากหลายให้นายจ้างเลือกปรับให้เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการขององค์กร (เช่น วงเงินค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน, มี OPD หรือไม่มี OPD เป็นต้น)
เอกสารประกอบการสมัคร มีอะไรบ้าง?
เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณารับประกัน นายจ้างควรเตรียมเอกสารประกอบการสมัครดังนี้
- ใบคำขอเอาประกันภัยกลุ่ม ที่กรอกข้อมูลของนายจ้างและรายละเอียดของแผนที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว
- รายชื่อพนักงานผู้ขอเอาประกันภัย ระบุชื่อ-นามสกุล, วันเกิด, ตำแหน่ง และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ของพนักงานทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (พร้อมวัตถุประสงค์) อายุไม่เกิน 6 เดือน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
- แบบแถลงสุขภาพของพนักงานทุกคนตามความเป็นจริง
- ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ (หากมีการขอ) เช่น แผนผังองค์กร หรือข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะธุรกิจ
ข้อยกเว้นบางส่วนของประกันกลุ่ม 5UP/5UP+
ประกันกลุ่ม 5UP/5UP+ ก็มีข้อยกเว้นความคุ้มครองบางประการที่สำคัญ ซึ่งผู้เอาประกันภัยและนายจ้างควรทราบ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับประกันภัยส่วนใหญ่ ดังนี้
- ภาวะที่เป็นมาก่อนการทำประกัน (Pre-existing Conditions) จะไม่ได้รับคุ้มครองโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่ผู้เอาประกันภัยเป็นอยู่ก่อนหน้าวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ หรือก่อนวันที่เข้าคุ้มครองครั้งแรก
- การฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายตัวเอง หรือการบาดเจ็บจากการพยายามทำร้ายร่างกายตนเอง
- การบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท โดยเจตนา
- การบาดเจ็บจากการแข่งกีฬาอันตราย เช่น แข่งรถ, แข่งเรือ, แข่งม้า, กีฬาผาดโผน
- การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่เกิดจากการก่ออาชญากรรม หรือการกระทำผิดกฎหมาย
- การรักษาที่ไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบัน เช่น การรักษาทางเลือก การฝังเข็ม การนวดบำบัด (ยกเว้นบางกรณีที่ระบุในสัญญาเพิ่มเติม)
- การรักษาเพื่อความงาม หรือการทำศัลยกรรมเพื่อความสวยงาม การรักษาสิว ฝ้า กระ ผมร่วง
- การตั้งครรภ์และคลอดบุตร โดยปกติจะไม่รวมในความคุ้มครองพื้นฐาน แต่สามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครองการคลอดบุตรได้
- การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่เกิดจากการใช้สารเสพติด หรืออยู่ในภาวะมึนเมา
- เหตุการณ์ที่เกิดจากภัยสงคราม การก่อการร้าย หรือการจลาจล
ทั้งนี้ข้อยกเว้นข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างและอาจไม่ครบถ้วนทั้งหมด จึงควรอ่านรายละเอียดในกรมธรรม์หรือสอบถามจากตัวแทน AIA โดยตรงเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน
หมายเหตุเพิ่มเติม
- กรมธรรม์ประกันกลุ่มจะมีการต่ออายุเป็นรายปี โดยบริษัทฯ จะพิจารณาเบี้ยประกันใหม่ตามประวัติการเคลมและจำนวนพนักงานที่เปลี่ยนแปลงไป
- หากมีการเพิ่มหรือลดพนักงาน นายจ้างจะต้องแจ้งบริษัทฯ เพื่อปรับปรุงข้อมูลและเบี้ยประกันให้ถูกต้อง
- AIA จะมีบริการเสริมสำหรับลูกค้าประกันกลุ่ม เช่น บริการ Health Sentry (ผู้ช่วยส่วนตัวด้านสุขภาพ), Telemedicine (ปรึกษาแพทย์ออนไลน์) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับพนักงานได้มากยิ่งขึ้น
- การมีประกันสุขภาพกลุ่มเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสวัสดิการพนักงาน จะช่วยเพิ่มความผูกพันกับองค์กร ลดอัตราการลาออก และดึงดูดบุคลากรใหม่ ๆ ได้
คำถามที่พบบ่อย
ประกันสุขภาพกลุ่ม 5UP/5UP+ ใช้ลดหย่อนภาษีได้ไหม?
เบี้ยประกันสุขภาพกลุ่มที่นายจ้างจ่ายให้พนักงานถือเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท (หักเป็นรายจ่ายของนิติบุคคล) ไม่ใช่สิทธิที่พนักงานแต่ละคนจะนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เหมือนเบี้ยประกันชีวิตหรือเบี้ยประกันสุขภาพส่วนบุคคลที่จ่ายเอง
อย่างไรก็ตาม การจ่ายเบี้ยประกันกลุ่มนี้ ถือเป็นสวัสดิการพนักงาน ซึ่งสามารถนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
ประกันสุขภาพกลุ่ม 5UP/5UP+ จำเป็นต้องตรวจสุขภาพหรือไม่?
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ประกันสุขภาพกลุ่ม 5UP/5UP+ โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือ ขั้นตอนการสมัครที่ง่ายดายและไร้ความกังวลเรื่องการตรวจสุขภาพ พนักงานของคุณไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเตรียมตัวหรือนัดหมาย เพียงแค่กรอกแบบฟอร์มและแถลงข้อมูลสุขภาพตามความเป็นจริงเท่านั้น
เมื่อข้อมูลครบถ้วน และคุณสมบัติของกลุ่มเข้าเกณฑ์เพียงเท่านี้ บริษัทของคุณก็พร้อมมอบความคุ้มครองสุขภาพที่เหนือกว่า ให้พนักงานทุกคนอุ่นใจได้อย่างเต็มที่
ประกันสุขภาพกลุ่ม AIA ใช้ที่ใดได้บ้าง?
ประกันสุขภาพกลุ่มของ AIA รวมถึงแผน 5UP/5UP+ สามารถใช้บริการได้ที่
- โรงพยาบาลและคลินิกในเครือข่ายของ AIA ทั่วประเทศ ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเข้ารับการรักษาแบบไม่ต้องสำรองจ่าย (Cashless Claim) ได้ เพียงแค่แสดงบัตรประกันกลุ่มหรือยืนยันตัวตนกับโรงพยาบาลหรือคลินิกในเครือข่าย
- หากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายของ AIA ผู้เอาประกันภัยจะต้องสำรองจ่ายค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วนำเอกสารค่ารักษาพยาบาล ใบเสร็จรับเงิน และใบรับรองแพทย์ มายื่นเบิกเคลมกับ AIA ในภายหลัง
เพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นและรวดเร็วที่สุด เราแนะนำให้คุณเลือกใช้บริการจากโรงพยาบาลและคลินิกในเครือข่ายคู่สัญญาของ AIA ทั่วประเทศ เพราะที่นี่คุณสามารถเข้ารับการรักษาได้ทันที โดยไม่ต้องสำรองจ่ายให้ยุ่งยาก
การค้นหาสถานพยาบาลในเครือข่ายก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสผ่านเว็บไซต์ของ AIA หรือ แอปพลิเคชัน AIA iService หรือหากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ตัวแทน AIA ของคุณก็พร้อมให้ข้อมูลเสมอ เพื่อให้คุณอุ่นใจทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา
ดาวน์โหลด โบวชัวร์แผนประกัน AIA 5UP/5UP+
หากมีคำถาม ข้อสงสัย หรือสนใจแผนประกันของ AIA ปรึกษาเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันทีค่ะ
นุ่น ชลิตา (Noon Chalita)
ตัวแทนประกันชีวิต AIA Full-Time
รหัสตัวแทน 706383 เลขที่ในอนุญาต 6801026789
Line Official : @aia-agentplus (มี@)
Facebook : ตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ AIA AgentPlus Thailand By นุ่น ชลิตา
โทร. 065-954-1646

