รู้ก่อนทำประกัน ระยะเวลารอคอย (Waiting period) คืออะไร?
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “ระยะเวลารอคอย” หรือ Waiting Period แต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร? และเหตุใดประกันถึงต้องมีช่วงเวลานี้ บทความนี้จะช่วยอธิบายให้ชัดเจน เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการทำประกันได้อย่างมั่นใจและรอบคอบ
เพราะการเข้าใจระยะเวลารอคอยถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้สิทธิความคุ้มครองได้อย่างถูกต้องตามเงื่อนไข และไม่เกิดความเข้าใจผิดเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันในช่วงต้นของกรมธรรม์
ระยะเวลารอคอย คืออะไร?
ระยะเวลารอคอย (Waiting period) คือ ช่วงเวลาที่ผู้เอาประกันภัยยังไม่สามารถใช้สิทธิความคุ้มครองตามกรมธรรม์ได้ แม้ว่ากรมธรรม์จะมีผลบังคับใช้แล้วก็ตาม โดยระยะเวลารอคอยนี้จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับเป็นวันแรกไปจนถึงระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งมีจุดประสงค์หลักเพื่อป้องกันการทำประกันภัยเพื่อหวังเคลมทันทีหลังจากที่รู้ว่ากำลังจะป่วย หรือป่วยแล้ว
ทำไมถึงต้องมีระยะเวลารอคอย
การมีระยะเวลารอคอยถือเป็นกลไกสำคัญที่สร้างความเป็นธรรมให้กับระบบประกันภัยโดยรวม เพราะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ที่มีเจตนาไม่สุจริต ซึ่งทำประกันในขณะที่ทราบอยู่แล้วว่าตนเองกำลังเจ็บป่วยหรือมีปัญหาสุขภาพ หากไม่มีเงื่อนไขนี้ บริษัทประกันจะต้องรับความเสี่ยงที่สูงเกินไป และอาจส่งผลให้ต้องปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัยทุกคน
นอกจากนี้ ระยะเวลารอคอยยังเป็นช่วงเวลาที่บริษัทใช้ในการตรวจสอบข้อมูลสุขภาพของผู้เอาประกันภัย เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ได้แถลงไว้ตั้งแต่ต้น ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมเบี้ยประกันภัยให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลและเป็นธรรมกับทุกคนในระยะยาว
Waiting period ในกรมธรรม์ประกัน แบ่งออกเป็นกี่ประเภท?
ระยะเวลารอคอยในกรมธรรม์ประกันสุขภาพสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1. ระยะเวลารอคอยเบื้องต้น
เป็นระยะเวลารอคอยสำหรับโรคทั่วไปหรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ และเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวไปแล้วจึงจะสามารถใช้สิทธิความคุ้มครองได้ โดยโรคที่อยู่ในระยะเวลารอคอยประเภทนี้มักจะเป็นโรคทั่วไปที่ไม่รุนแรง เช่น ไข้หวัด, โรคกระเพาะอาหาร หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะมีระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 30 วันหลังกรมธรรม์อนุมัติ
2. ระยะเวลารอคอยสำหรับโรคที่มีมาก่อน
ระยะเวลารอคอยประเภทนี้จะใช้กับโรคประจำตัวหรือการเจ็บป่วยที่เป็นมาก่อนวันทำประกันภัย โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการเคลมสำหรับโรคที่ผู้เอาประกันภัยทราบอยู่แล้วว่าตนเองเป็นอยู่ โดยโรคที่อยู่ในระยะเวลารอคอยประเภทนี้อาจรวมถึงโรคเรื้อรังที่ไม่ได้ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งระยะเวลารอคอยมักจะนานกว่าระยะเวลาเบื้องต้น และอาจแตกต่างกันไปในแต่ละกรมธรรม์ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 120 วัน
3. ระยะเวลารอคอยสำหรับโรคเฉพาะ
เป็นระยะเวลารอคอยที่ใช้กับโรคร้ายแรง หรือโรคที่มีความเสี่ยงสูงที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์อย่างชัดเจน เช่น เนื้องอก, ถุงน้ำ, มะเร็ง, ไส้เลื่อน, นิ่ว, เส้นเลือดขอด, ต้อกระจก, หรือริดสีดวงทวาร โดยระยะเวลารอคอยสำหรับโรคเหล่านี้มักจะยาวนานกว่าประเภทอื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่หลังจากทำประกันภัยไปแล้ว โดยระยะเวลาสำหรับโรคเฉพาะนี้มักจะอยู่ที่ 120 วัน นับจากวันที่มีผลบังคับ
ระยะเวลารอคอยของแต่ละประเภทประกันอยู่ที่กี่วัน?
ระยะเวลารอคอยจะแตกต่างกันไปตามประเภทของประกันและเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ โดยสรุปในตารางได้ดังนี้
ประเภทประกัน | ระยะเวลารอคอย | รายละเอียดเพิ่มเติม |
ระยะเวลารอคอยประกันสุขภาพ | ประมาณ 30 วัน | สำหรับโรคทั่วไป เช่น ไข้หวัด, โรคกระเพาะอาหาร หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ |
ระยะเวลารอคอยประกันสุขภาพสำหรับโรคร้ายแรงเฉพาะ | ประมาณ 120 วัน | สำหรับโรคที่ระบุชื่อเฉพาะในกรมธรรม์ เช่น เนื้องอก, ไส้เลื่อน, นิ่วในถุงน้ำดี, ต้อกระจก หรือริดสีดวงทวาร |
ระยะเวลารอคอยประกันโรคร้ายแรง | ประมาณ 60-90 วัน | สำหรับโรคร้ายแรงทั่วไปที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น มะเร็ง, โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคหัวใจ โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ |
ระยะเวลารอคอยประกันอุบัติเหตุ | ไม่มี | โดยปกติแล้ว ประกันอุบัติเหตุจะไม่มีระยะเวลารอคอย แต่จะให้ความคุ้มครองทันทีตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ |
ระยะเวลารอคอยประกันโควิด | ประมาณ 14 วัน | สำหรับประกันโควิด-19 โดยเฉพาะ ซึ่งระยะเวลานี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน |
ระยะเวลารอคอยเริ่มนับอย่างไร?
ระยะเวลารอคอยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ (Effective Date) เป็นต้นไป โดยมีหลักการง่าย ๆ คือ วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ คือ วันที่สัญญาประกันภัยของคุณเริ่มต้นอย่างเป็นทางการจากนั้นนับจำนวนวันสิ้นสุดระยะรอคอยที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์สำหรับแต่ละเงื่อนไข เช่น 30 วัน, 90 วัน, 120 วัน เป็นต้น เมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ความคุ้มครองก็จะเริ่มต้นขึ้นอย่างสมบูรณ์
ตัวอย่างเช่น
หากคุณทำประกันสุขภาพและกรมธรรม์มีผลบังคับใช้วันที่ 1 สิงหาคม หากมีระยะเวลารอคอย 30 วันสำหรับโรคทั่วไป คุณจะสามารถใช้สิทธิความคุ้มครองสำหรับโรคทั่วไปได้ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม เป็นต้นไป
แนะนำแผนประกันสุขภาพจาก AIA
AIA มีแผนประกันสุขภาพที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล โดยแผนยอดนิยมที่น่าสนใจมีดังนี้
1. AIA Health Happy
ประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมและอุ่นใจในทุกสถานการณ์ AIA Health Happy คือคำตอบที่ใช่ ด้วยวงเงินความคุ้มครองที่สูง ทำให้คุณสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุดได้อย่างไร้กังวล โดยแผนนี้เน้นความคุ้มครองค่าใช้จ่ายทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความอุ่นใจและต้องการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียง
2. AIA H&S Care
เริ่มต้นสร้างหลักประกันสุขภาพที่มั่นคงด้วยเบี้ยประกันที่คุ้มค่า AIA H&S Care คือ ทางเลือกที่เข้าถึงง่ายและให้ความคุ้มครองที่จำเป็นครบถ้วน ซึ่งเป็นแผนที่ออกแบบมาเพื่อความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นทำประกัน หรือผู้ที่ต้องการประกันสุขภาพในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
3. AIA Health Saver
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและมองหาประกันที่คุ้มค่า AIA Health Saver คือแผนที่ตอบโจทย์ ด้วยเบี้ยประกันที่สบายกระเป๋า แต่ให้ความคุ้มครองที่สมเหตุสมผล พร้อมส่วนลดเบี้ยประกันหากไม่มีการเคลม เหมาะสำหรับผู้ที่มีสวัสดิการสุขภาพจากที่ทำงานอยู่แล้ว แต่อยากมีประกันสุขภาพส่วนตัวไว้ดูแลค่าใช้จ่ายส่วนเกิน หรือเป็นทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นดูแลตัวเอง
4. AIA Infinite Care
สุขภาพที่ดีคือความมั่งคั่งสูงสุด และ AIA Infinite Care คือความคุ้มครองระดับพรีเมียมที่จะดูแลคุณในทุกมิติของชีวิต พร้อมอิสระในการเลือกการรักษาที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก เป็นแผนประกันสุขภาพระดับพรีเมียมที่มอบความคุ้มครองที่เหนือกว่า ด้วยวงเงินความคุ้มครองที่สูงมากและครอบคลุมการรักษาพยาบาลจากทั่วโลก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความอุ่นใจสูงสุดและต้องการเข้าถึงนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุดจากโรงพยาบาลชั้นนำทั่วโลก พร้อมบริการดูแลช่วยเหลือส่วนบุคคลตลอด 24 ชั่วโมง
5. AIA Multi-Pay CI
หากโรคร้ายแรงคือความกังวลสูงสุดของคุณ AIA Multi-Pay CI คือ เกราะป้องกันชั้นยอดที่พร้อมจะมอบเงินก้อนใหญ่ให้คุณได้หลายครั้ง แม้โรคร้ายจะกลับมาอีกครั้ง โดยแผนนี้จะให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่สามารถเคลมได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งแตกต่างจากแผนโรคร้ายแรงทั่วไปที่จ่ายเพียงครั้งเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างหลักประกันก้อนใหญ่เพื่อรับมือกับโรคร้ายแรงที่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้
6. AIA CI Super Care
สานต่อความอุ่นใจจากโรคร้ายแรงไปอีกขั้นกับ AIA CI Super Care ที่มอบความคุ้มครองสูงสุดเพื่อรับมือกับค่าใช้จ่ายมหาศาลจากโรคร้ายแรงที่ซับซ้อนและเรื้อรัง เป็นแผนประกันโรคร้ายแรงที่ให้วงเงินคุ้มครองสูง และครอบคลุมโรคร้ายแรงในระยะต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลักประกันทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากโรคร้ายแรง
7. AIA Issara Plus
AIA Issara Plus คือ นวัตกรรมประกันชีวิตควบการลงทุนที่ให้คุณออกแบบความคุ้มครองได้เอง พร้อมโอกาสสร้างความมั่งคั่งให้เงินออมของคุณเติบโตไปพร้อม ๆ กัน เป็นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked) ที่สามารถแนบสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพได้ ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนวงเงินความคุ้มครองและบริหารจัดการเงินลงทุนเพื่อเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวได้อย่างยืดหยุ่น
สรุป
การทำความเข้าใจ “ระยะเวลารอคอย” เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณวางแผนการใช้สิทธิประกันสุขภาพได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพราะถึงแม้กรมธรรม์จะมีผลบังคับใช้แล้ว แต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่ต้องรอคอยก่อนจึงจะสามารถเคลมได้สำหรับโรคบางประเภท ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้เอาประกันภัยทุกคน หากคุณสามารถทำความเข้าใจและวางแผนทำประกันได้อย่างเหมาะสม ก็จะได้รับความคุ้มครองได้อย่างอุ่นใจและคุ้มค่ามากที่สุดนั่นเอง
หากคุณยังคงมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการเลือกแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับคุณและระยะเวลารอคอยที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นุ่น ตัวแทนประกัน ยินดีให้คำปรึกษาเพิ่มเติมได้ทันที โทร. 099-678-7777
คำถามที่พบบ่อย
ระยะเวลารอคอย OPD กี่วัน?
โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลารอคอยสำหรับความคุ้มครองผู้ป่วยนอก (OPD) มักจะอยู่ในช่วง 30 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ แต่ในบางแผนของบางบริษัทอาจให้ความคุ้มครองทันทีสำหรับบางกรณี ดังนั้นจึงควรตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์อย่างละเอียดอีกครั้ง
ระยะเวลารอคอย 120 วัน มีโรคอะไรบ้าง?
สำหรับระยะเวลารอคอย 120 วัน มีโรคอะไรบ้าง? AIA มักจะใช้มาตรการนี้กับโรคร้ายแรงที่ระบุไว้ในสัญญาประกันชีวิตและประกันสุขภาพอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการทำประกันเพื่อหวังเคลมโรคที่เป็นอยู่แล้ว ซึ่งโรคที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่
- เนื้องอก ถุงน้ำ มะเร็ง
- ไส้เลื่อน ไส้ติ่ง
- นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในไต
- เส้นเลือดขอดที่ขา
- ริดสีดวงทวาร
- ต้อเนื้อ ต้อกระจก หรือการผ่าตัดทอนซิลหรืออะดีนอยด์
ระยะเวลารอคอย 180 วัน มีโรคอะไรบ้าง?
โดยปกติแล้วระยะเวลารอคอย 180 วัน มักจะใช้กับความคุ้มครองในการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร ซึ่งจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ไปจนถึง 180 วัน และสำหรับความคุ้มครองโรคร้ายแรงบางชนิดในบางแผนอาจมีระยะเวลารอคอย 180 วัน หรือนานกว่านั้น ทั้งนี้ต้องดูรายละเอียดในกรมธรรม์ที่ซื้อเป็นหลักนั่นเอง
ระยะเวลารอคอย ประกันชีวิต AIA กี่วัน?
สำหรับประกันชีวิต AIA โดยทั่วไปจะไม่มีระยะเวลารอคอยสำหรับความคุ้มครองการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ แต่สำหรับสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพหรือโรคร้ายแรงที่แนบท้ายไปกับประกันชีวิตนั้น จะมีระยะเวลารอคอยตามเงื่อนไขของสัญญาเพิ่มเติมตามข้อกำหนดของแต่ละแผน ซึ่งควรศึกษารายละเอียดในกรมธรรม์อีกครั้ง
ถ้าหากป่วยในช่วงระยะเวลารอคอย เคลมได้ไหม?
หากคุณเจ็บป่วยในช่วงระยะเวลารอคอย จะไม่สามารถเคลมได้ เพราะตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ความคุ้มครองจะยังไม่เริ่มในระหว่างนั้น อย่างไรก็ตามหากเป็นการเจ็บป่วยที่ไม่ได้เกี่ยวกับโรคที่มีระยะเวลารอคอย และเกิดขึ้นหลังจากพ้นระยะเวลารอคอยไปแล้ว ก็จะสามารถเคลมได้ตามปกติ
ถ้าหากเปลี่ยนแผนประกันสุขภาพ ต้องรอคอยใหม่ไหม?
การเปลี่ยนแผนประกันสุขภาพ (โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากแผนเดิมที่มีอยู่กับบริษัทเดียวกัน) โดยทั่วไป อาจไม่ต้องเริ่มนับระยะเวลารอคอยใหม่ทั้งหมด แต่จะพิจารณาจากเงื่อนไขของบริษัทและแผนใหม่ที่เลือกทำ ซึ่งหากมีการเพิ่มความคุ้มครองใหม่ ๆ เข้ามา อาจมีระยะเวลารอคอยสำหรับความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นมานั้น แต่สำหรับความคุ้มครองเดิมที่เคยมีอยู่แล้วก็จะยังคงให้ความคุ้มครองต่อเนื่องไป
ถ้าครบกำหนดระยะเวลารอคอยแล้ว สามารถเคลมได้ทุกโรคไหม?
เมื่อครบกำหนดระยะเวลารอคอยแล้ว คุณจะสามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลได้สำหรับโรคที่เกิดขึ้นใหม่หลังจากพ้นระยะเวลารอคอยไปแล้ว อย่างไรก็ตามยังมีข้อยกเว้นบางประการที่อาจไม่สามารถเคลมได้ เช่น การเจ็บป่วยที่เกิดจากการเจตนาทำร้ายตนเอง, การกระทำผิดกฎหมาย, หรือการรักษาที่ไม่ได้เกิดจากการเจ็บป่วย เช่น การเสริมความงาม เป็นต้น
หากเสียชีวิตในช่วงระยะเวลารอคอย จะยังได้รับผลประโยชน์ไหม?
สำหรับสัญญาประกันชีวิตหลัก หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในช่วง 2 ปีแรก บริษัทอาจตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต หากไม่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยที่เป็นมาก่อน อาจพิจารณาจ่ายเงินเอาประกันภัยให้ แต่สำหรับสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพหรือโรคร้ายแรง หากเสียชีวิตจากโรคนั้น ๆ ในช่วงระยะเวลารอคอย บริษัทอาจไม่จ่ายผลประโยชน์ตามสัญญาเพิ่มเติมนั้นค่ะ
ทำไมแต่ละบริษัทประกันมีระยะเวลารอคอยต่างกัน?
ระยะเวลารอคอยที่แตกต่างกันในแต่ละบริษัทประกันนั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายการพิจารณาความเสี่ยงและเงื่อนไขของผลิตภัณฑ์ แต่ละบริษัทก็มีเกณฑ์ในการประเมินความเสี่ยงที่แตกต่างกัน รวมถึงแผนการตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็มีผลต่อการกำหนดระยะเวลารอคอยที่แตกต่างกันไปด้วยนั่นเองค่ะ