Home » blogs » ค่าห้องโรงพยาบาลเอกชน 2568 อัปเดตล่าสุด พร้อมข้อมูลติดต่อ

ค่าห้องโรงพยาบาลเอกชน 2568 อัปเดตล่าสุด พร้อมข้อมูลติดต่อ

ค่าห้องโรงพยาบาลเอกชน 2568 อัปเดตล่าสุด พร้อมข้อมูลติดต่อ

หนึ่งในความกังวลหลักของหลายคนเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน คือ “ค่าห้องพัก” ที่ปรับตัวสูงขึ้นทุกปี ดังนั้นการทราบข้อมูลค่าห้องโรงพยาบาลเอกชนในปี 2568 รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเข้าพัก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างรอบคอบ และเลือกแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของตนเองได้มากยิ่งขึ้น

ซึ่งนุ่นได้รวบรวมข้อมูลค่าห้องพักของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมช่องทางติดต่อมาให้แล้ว เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดและเตรียมความพร้อมด้านค่าใช้จ่ายสุขภาพได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอนห้องที่โรงพยาบาล มีค่าใช้จ่ายต่อคืออะไรบ้าง?

เมื่อคุณเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (IPD) ในโรงพยาบาลเอกชน ค่าใช้จ่ายที่คุณต้องรับผิดชอบไม่ได้มีเพียงแค่ “ค่าห้อง” เท่านั้น แต่ยังประกอบด้วยค่าบริการอื่น ๆ ที่รวมอยู่ในบิลค่าใช้จ่ายต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่แยกย่อยดังนี้

| AIA Agent Plus

ประเภทค่าใช้จ่าย
รายละเอียด
1. ค่าห้อง (Room Rate) ค่าใช้จ่ายหลักสำหรับการเช่าห้องพักผู้ป่วย อาจมีตั้งแต่ห้องรวม, ห้องเดี่ยวมาตรฐาน, ห้อง Deluxe ไปจนถึงห้อง Suite/VIP
2. ค่าอาหาร (Board/Food) ค่าอาหารของผู้ป่วย ซึ่งมักถูกรวมอยู่ในค่าห้องต่อวัน และคิดเป็นจำนวนมื้อที่ได้รับ
3. ค่าบริการพยาบาล ค่าบริการที่คิดต่อวันสำหรับการดูแลและให้ความช่วยเหลือโดยพยาบาลวิชาชีพ เช่น การวัดไข้ การให้ยาตามเวลา และการดูแลทั่วไป
4. ค่าบริการโรงพยาบาล (Hospital Service) ค่าบริการทั่วไปของโรงพยาบาลที่เรียกเก็บต่อวัน เช่น ค่าสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก, ค่าทำความสะอาด, และค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน

อัปเดต ค่าห้องโรงพยาบาลเอกชนปี 2568

การเตรียมพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นก้าวสำคัญของการวางแผนสุขภาพอย่างรอบด้าน เพื่อช่วยให้คุณคำนวณงบประมาณได้อย่างมั่นใจ นุ่นจึงได้รวบรวมค่าห้องพักเริ่มต้นของ 12 โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ พร้อมจุดเด่นและข้อมูลสำคัญของแต่ละแห่ง เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจในการเลือกโรงพยาบาลที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพและงบประมาณของคุณ

1. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (Bumrungrad International Hospital)

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก (JCI) และเป็นแห่งแรกในเอเชียที่ได้รับการรับรองนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 โรงพยาบาลนี้มีความโดดเด่นในการรักษาโรคซับซ้อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรม พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาที่มุ่งมั่นมอบประสบการณ์การรักษาพยาบาลชั้นเลิศ 

จุดเด่นที่สำคัญของโรงพยาบาลนี้ คือ การให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย โดยใช้แนวทางการดูแลที่อ้างอิงจากหลักฐานเชิงประจักษ์และการรับรองระดับสากล ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางของ Medical Tourism ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

  • เริ่มต้นประมาณ 14,700 – 14,725 บาทต่อคืน (สำหรับห้องเดี่ยวธรรมดา/ห้องพักมาตรฐาน โดยรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการแล้ว)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 33 สุขุมวิท 3 ซอยนานาเหนือ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

2. โรงพยาบาลกรุงเทพ (Bangkok Hospital)

โรงพยาบาลกรุงเทพเป็นโรงพยาบาลหลักในเครือ BDMS ที่มีประวัติยาวนานกว่า 50 ปี และได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจาก Joint Commission International (JCI) โรงพยาบาลนี้มีจุดเด่น คือ การมุ่งสู่ความเป็นเลิศทางการแพทย์ของเอเชียแปซิฟิกด้วยแนวคิด Smart Healthcare และการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำหน้า มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคซับซ้อนผ่านศูนย์เฉพาะทางที่มีชื่อเสียง อาทิ ศูนย์หัวใจ ศูนย์มะเร็ง และศูนย์สมอง 

เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศและมีล่ามผู้เชี่ยวชาญกว่า 26 ภาษา เพื่อรองรับผู้ป่วยต่างชาติได้อย่างไร้อุปสรรคด้านการสื่อสาร

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลกรุงเทพ:

  • เริ่มต้นประมาณ 11,300 – 11,300 บาทต่อคืน (สำหรับห้อง Standard โดยรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการแล้ว)

ที่ตั้งโรงพยาบาล:

  • 2 ซอยศูนย์วิจัย 7 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

3. โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท (Samitivej Sukhumvit Hospital)

โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เป็นโรงพยาบาลที่โดดเด่นด้านการดูแลรักษาที่เน้นความเป็นสากลและมีความอบอุ่น เป็นที่ไว้วางใจของกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติและชุมชนชาวญี่ปุ่นในไทย มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านการดูแลครอบครัวและเด็ก 

พร้อมด้วยศูนย์เฉพาะทางอื่น ๆ ที่ครบวงจร เช่น สถาบันเต้านม สถาบันภูมิแพ้ และศูนย์กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ ด้วยทำเลที่ตั้งที่เดินทางสะดวกและบรรยากาศที่เป็นมิตร โรงพยาบาลจึงสามารถรองรับผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลระดับพรีเมียมได้อย่างดี

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

  • เริ่มต้นประมาณ 5,600 – 9,200 บาทต่อคืน (สำหรับห้อง Premium/Superior/Standard)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 133 สุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

4. โรงพยาบาลพญาไท 2 (Phyathai 2 Hospital)

โรงพยาบาลพญาไท 2 มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมภายใต้แนวคิด Lifestyle Medicine & Preventive Clinic ที่ผสานการแพทย์เฉพาะทางเข้ากับการดูแลแบบรายบุคคล เพื่อให้คนเมืองบรรลุ Work-Life-Health Balance 

อีกทั้งโรงพยาบาลนี้เป็นศูนย์ชั้นนำด้านหลอดเลือดและหัวใจ รวมถึงโรคเด็กและได้พัฒนาคลินิกเฉพาะทางที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างลึกซึ้ง เช่น Finn Clinic (คลินิกสุขภาพเพศแบบองค์รวม) และการดูแลที่ครอบคลุมปัญหาความเครียด การนอนหลับ และฮอร์โมน เพื่อเป็นพาร์ตเนอร์สุขภาพในทุกช่วงวัยอย่างแท้จริง

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลพญาไท 2

  • เริ่มต้นประมาณ 7,400 – 7,893 บาทต่อคืน (สำหรับห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน/ห้อง Gold โดยรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการแล้ว)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 943 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400

5. โรงพยาบาลพระราม 9 (Praram 9 Hospital)

โรงพยาบาลพระราม 9 เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยในระดับตติยภูมิ มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในด้านการรักษาโรคที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถาบันโรคไตและเปลี่ยนอวัยวะ นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการรักษาโรคซับซ้อนอื่น ๆ ด้วยทีมสหสาขาวิชาชีพ 

โรงพยาบาลนี้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการให้บริการทางการแพทย์ในอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผลและมีความคุ้มค่า เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลพระราม 9

  • เริ่มต้นประมาณ 8,000 – 10,000 บาทต่อคืน (สำหรับห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 99 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

6. โรงพยาบาลวิภาวดี (Vibhavadi Hospital)

โรงพยาบาลวิภาวดีมุ่งมั่นที่จะเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิ ที่ขับเคลื่อนด้วยคุณภาพทั้งด้านการรักษาพยาบาลและการบริการ โดยมีการวางแผนนำระบบ Smart Service, Smart Operation, Smart Hospital เข้ามาสนับสนุนการดำเนินการอย่างจริงจัง 

มีจุดเด่น คือ การให้บริการที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายในราคาสมเหตุสมผล มีศูนย์เฉพาะทางที่น่าสนใจ เช่น ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง ศูนย์ผิวหนังและเลเซอร์ และศูนย์ผู้สูงอายุ โรงพยาบาลให้ความสำคัญกับการสร้างความไว้วางใจให้กับผู้รับบริการ ด้วยทีมงานที่มีจิตบริการและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลวิภาวดี

  • เริ่มต้นประมาณ 2,200 – 4,360 บาทต่อคืน (สำหรับห้องเดี่ยวธรรมดา/Standard)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 51/3 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

7. โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน (Bangkok Christian Hospital)

โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนเป็นโรงพยาบาลเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจสีลม โดดเด่นด้วยการให้บริการทางการแพทย์และศัลยกรรมที่มีคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ โดยเฉพาะในศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง เช่น ศูนย์ทันตกรรมขนาดใหญ่ แผนกรังสีวิทยา และแผนกจักษุ 

โรงพยาบาลนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยพันธกิจในการให้การรักษาพยาบาลและสร้างเสริมสุขภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ด้วยการบริการที่อบอุ่นและมีจริยธรรมสูง ทำให้เป็นที่ไว้วางใจของคนในพื้นที่มาอย่างยาวนาน

ช่องทางติดต่อ

  • เบอร์โทรศัพท์: 02-625-9000 หรือ 02-235-1000
  • เว็บไซต์: https://www.bch.in.th/

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน

  • เริ่มต้นประมาณ 5,900 – 6,100 บาทต่อคืน (สำหรับห้องซูพีเรีย/ห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน โดยรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการแล้ว)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 124 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

8. โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น (Kasemrad Prachachuen Hospital)

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโรงพยาบาลที่ให้บริการด้านสุขภาพที่มีมาตรฐานสากลและเน้นการบริการในราคายุติธรรม โดยคำนึงถึงจริยธรรมและความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ มีจุดเด่นด้านศูนย์เฉพาะทางที่เข้าถึงง่าย เช่น ศูนย์โรคหัวใจ และมีห้องพักรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันตามมาตรฐาน 

โรงพยาบาลนี้มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการบริการสุขภาพให้กับประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วย การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น

  • เริ่มต้นประมาณ 6,500 – 6,500 บาทต่อคืน (สำหรับห้องเดี่ยวพิเศษ โดยรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการแล้ว)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 910/5 ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800

9. โรงพยาบาลธนบุรี (Thonburi Hospital)

โรงพยาบาลธนบุรีเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยมานานกว่า 40 ปี ตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี โดดเด่นด้วยการรวมทีมอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกว่า 400 คน พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อมอบประสิทธิภาพการรักษาที่มาพร้อมมาตรฐานการดูแลและสภาพแวดล้อมที่สร้างความรู้สึกสบายใจ 

โรงพยาบาลนี้มีเตียงรองรับผู้ป่วยถึง 435 เตียง และเน้นการรักษาแบบบูรณาการที่มีคุณภาพ ตั้งแต่การประเมินอาการ การรักษาโรค ไปจนถึงการฟื้นฟูสุขภาพ จึงเป็นคำตอบในการดูแลรักษาสุขภาพแบบครบวงจร

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลธนบุรี

  • เริ่มต้นประมาณ 5,620 – 5,620 บาทต่อคืน (สำหรับห้อง Standard โดยรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการแล้ว)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 34/1 ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

10. โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 (Paolo Hospital Chokchai 4)

โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 มุ่งมั่นสู่การเป็นโรงพยาบาลชั้นนำของไทยที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้ป่วย ร่วมกับผลการรักษาและนวัตกรรมที่โดดเด่น จุดเด่นของโรงพยาบาลนี้ คือ การให้บริการที่ยึดหลัก “CIRCLe” 

ซึ่งประกอบด้วย Care (การดูแลตามลักษณะความแตกต่างของแต่ละบุคคล), Integrity (ความซื่อสัตย์), Respect (การยอมรับนับถือสิทธิผู้ป่วย), Collaboration (ความร่วมมือ) และ Learning (การเรียนรู้เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์) 

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4

  • เริ่มต้นประมาณ 5,040 – 6,530 บาทต่อคืน (สำหรับห้องพักเดี่ยว โดยรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการแล้ว)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 2246 ถนนโชคชัย 4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230

11. โรงพยาบาลพญาไท 1 (Phyathai 1 Hospital)

โรงพยาบาลพญาไท 1 มุ่งมั่นที่จะเป็น Health Companion ที่พร้อมดูแลผู้รับบริการในทุกช่วงชีวิต ด้วยความเชี่ยวชาญทางการแพทย์เฉพาะทางชั้นนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสมองและประสาทวิทยา ผู้สูงอายุ และมะเร็ง 

ซึ่งโรงพยาบาลนี้มีการปรับโครงสร้างให้เป็น ‘เมดิคอล แคมปัส’ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยและยกระดับการดูแลให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิด INTERNATIONAL ZONE เพื่อรองรับลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการการดูแลระดับพรีเมียม

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลพญาไท 1

  • เริ่มต้นประมาณ 6,115 – 6,345 บาทต่อคืน (สำหรับห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน/ห้อง Gold โดยรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการแล้ว)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 367/1 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400

12. โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล (Bangpakok 9 International Hospital)

โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นโรงพยาบาลชั้นนำที่เชี่ยวชาญทางการแพทย์แบบองค์รวม มีมาตรฐานการบริการระดับสากล และได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของไทยโดย Newsweek จุดเด่นของโรงพยาบาลนี้ คือ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการรักษา ควบคู่กับการดูแลด้วยหัวใจภายใต้แนวคิด “Heart of Care” มีศูนย์เฉพาะทางที่โดดเด่น เช่น ศูนย์หัวใจ และให้บริการดูแลสุขภาพทุกระดับแบบผสมผสาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพการรักษา

ช่องทางติดต่อ

ค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล

  • เริ่มต้นประมาณ 5,200 – 5,900 บาทต่อคืน (สำหรับห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน โดยรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการแล้ว)

ที่ตั้งโรงพยาบาล

  • 362 ถนนพระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 10150

4 ปัจจัยที่มีผลต่อค่าห้องโรงพยาบาลเอกชน

ค่าห้องพักผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเอกชนถูกกำหนดจากหลายปัจจัยที่มีความซับซ้อน นอกเหนือจากราคาพื้นฐานของห้องพัก ซึ่งปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อค่าห้อง มีดังนี้

  1. ระดับและความเชี่ยวชาญของโรงพยาบาล 

โรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ หรือมีศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางในการรักษาโรคซับซ้อน มักมีค่าห้องที่สูงกว่า เนื่องจากรวมเอาต้นทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสูง และชื่อเสียงของโรงพยาบาลไว้ด้วย

  1. ประเภทของห้องพัก 

ค่าห้องจะแปรผันตามขนาดของห้อง จำนวนเตียง ความเป็นส่วนตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับ โดยห้องพักเดี่ยวพิเศษ (Deluxe/VIP/Suite) ที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีห้องรับแขกแยก หรือมีบริการพิเศษอื่น ๆ ย่อมมีราคาสูงกว่าห้องพักเดี่ยวมาตรฐานหรือห้องรวม

  1. ค่าบริการพยาบาลและบริการโรงพยาบาล 

ค่าห้องที่เห็นมักไม่ใช่แค่ราคา “พื้นที่” แต่ยังรวมถึงค่าบริการพยาบาล ซึ่งเป็นค่าดูแลโดยพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง และค่าบริการโรงพยาบาล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนกลางสำหรับการบริหารจัดการโรงพยาบาล โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรวม

  1. ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และต้นทุนการดำเนินงาน

โรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจ มักมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงกว่า ทั้งค่าเช่าที่ดิน ค่าสาธารณูปโภค และค่าจ้างบุคลากร ทำให้ต้องกำหนดอัตราค่าห้องที่สูงขึ้นตามไปด้วย

แนวโน้มสถานการณ์ค่าห้องปี 2569

แนวโน้มสถานการณ์คาดว่าค่าห้องโรงพยาบาลเอกชนในปี 2569 จะยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ที่สูงกว่าเงินเฟ้อทั่วไป และการลงทุนในเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัยมากขึ้นเพื่อรักษาโรคซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ถือประกันสุขภาพแบบระบุวงเงินค่าห้องเดิมอาจเริ่มพบปัญหาต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มขึ้น

ข้อพิจารณาเลือกแบบแผนประกัน ให้ครอบคลุมค่าห้อง

1. พิจารณาจากราคาค่าห้องเริ่มต้นของโรงพยาบาลที่ต้องการใช้บริการ

ก่อนตัดสินใจเลือกแผนประกัน ควรนำราคาค่าห้องพักเดี่ยวมาตรฐานของโรงพยาบาลที่คุณตั้งใจจะใช้บริการเป็นประจำ เช่น โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลในเครือที่วางแผนไว้ มาเป็นเกณฑ์ตั้งต้น จากนั้นเลือกวงเงินค่าห้องต่อวันที่สอดคล้องหรือสูงกว่าราคาเริ่มต้น 10-20% เพื่อรองรับการปรับขึ้นของราคาค่าห้องในอนาคตที่เกิดขึ้นทุกปี 

และควรตรวจสอบว่าโรงพยาบาลนั้นมีการปรับโครงสร้างค่าห้องรวมค่าอาหารและค่าบริการพยาบาลไว้ในราคาเดียวกันหรือไม่?

2. ทำความเข้าใจความแตกต่างของ “ค่าห้อง” และ “วงเงินเหมาจ่าย”

แบบประกันมีสองประเภทหลัก คือ แบบแยกค่าใช้จ่าย (ระบุวงเงินค่าห้องชัดเจน) และแบบเหมาจ่าย หากคุณเลือกแบบที่ระบุวงเงินค่าห้องต่อวันชัดเจน อาทิ คุ้มครอง4,000 บาท/วัน ซึ่งคุณจะต้องจ่ายส่วนต่างเองหากเลือกห้องที่แพงกว่า 

ในทางกลับกันหากเป็นแผนประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย (IPD) มักมีความยืดหยุ่นสูงกว่า เนื่องจากค่าห้องจะถูกรวมอยู่ในวงเงินรักษาโดยรวมที่สูงมาก แต่ก็ควรตรวจสอบเงื่อนไขย่อยเพิ่มเติมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีการกำหนดสัดส่วนการร่วมจ่าย (Co-payment) ในปีต่ออายุ ก็จะส่งผลต่อภาระค่าห้องของคุณในปี 2569 เช่นกัน

3. ตรวจสอบ “ค่าบริการโรงพยาบาล” และ “ค่าบริการพยาบาล” ว่ารวมอยู่ในความคุ้มครองหรือไม่?

ค่าห้องที่ปรากฏในบิลเรียกเก็บของโรงพยาบาลเอกชนจะแยกย่อยเป็นค่าห้องและอาหาร, ค่าบริการพยาบาล และค่าบริการโรงพยาบาล ซึ่งสองรายการหลังอาจเป็นส่วนสำคัญของค่าห้องทั้งหมด ดังนั้น คุณต้องมั่นใจว่ากรมธรรม์ที่คุณเลือกนั้นระบุอย่างชัดเจนว่าคุ้มครองค่าบริการทั้งสามส่วนนี้ครบถ้วน หรือเป็นแผนที่ออกแบบมาในลักษณะของ “ค่าห้องและค่าบริการทั่วไป” ที่รวมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไว้ในวงเงินต่อวันแล้ว

4. พิจารณาความคุ้มครองใน “ห้อง ICU” และ “กรณีห้องเต็ม”

ห้องผู้ป่วยหนัก (ICU/CCU) มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าห้องพักปกติค่อนมาก จึงควรตรวจสอบวงเงินคุ้มครองค่าห้อง ICU ว่ามีวงเงินแยกต่างหาก หรืออยู่ในวงเงินเหมาจ่ายที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายจริง นอกจากนี้ก็ควรสอบถามเงื่อนไขการเคลมในสถานการณ์ที่ “ห้องตามสิทธิ์เต็ม” และคุณต้องเข้ารับการรักษาในห้องพักที่มีราคาสูงกว่าสิทธิ์ตามกรมธรรม์ เพราะบางแผนอาจมีเงื่อนไขให้ความคุ้มครองค่าห้องราคาสูงสุดที่ระบุไว้ในกรมธรรม์แม้จะไม่ได้นอนในห้องที่ระบุชื่อไว้ก็ตาม

แนะนำ 5 แผนประกัน AIA ที่มีคุ้มครองค่าห้อง

ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพของ AIA มีหลายแผนมีความคุ้มครองค่าห้องพักผู้ป่วยใน (IPD) โดยแบ่งตามรูปแบบและระดับความคุ้มครองได้ดังนี้

1. แผน AIA Health Happy (เอไอเอ เฮลธ์ แฮปปี้)

เป็นสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพแบบ “เหมาจ่ายตามจริง” วงเงินสูง ที่ให้ความยืดหยุ่นในการรักษาโรคทั่วไปและโรคซับซ้อนอย่างครอบคลุม โดยแผนนี้มีวงเงินค่าห้องและอาหารให้เลือกสูงสุดถึง 9,000 บาทต่อวัน พร้อมความคุ้มครองค่าห้อง ICU แบบเหมาจ่ายตามจริง ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะมีทุนสำรองเพียงพอสำหรับค่าห้องและค่าบริการพยาบาลในโรงพยาบาลชั้นนำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

2. แผน AIA H&S Extra (เอไอเอ เอช แอนด์ เอส เอ็กซ์ตร้า)

เป็นแผนสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าและได้รับความนิยมสูง เนื่องจากรวมความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) ร่วมด้วย โดยแผนนี้ให้วงเงินค่าห้องและบริการโรงพยาบาลสูงสุดถึง 6,500 บาทต่อวัน ซึ่งเพียงพอสำหรับห้องพักเดี่ยวมาตรฐานในโรงพยาบาลเอกชนระดับกลางถึงสูง

3. แผน AIA H&S (New Standard) (เอไอเอ เอช แอนด์ เอส)

เป็นแผนประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่ายที่เน้นความคุ้มครองผู้ป่วยใน (IPD) ในราคาเบี้ยประกันที่เข้าถึงง่ายกว่า โดยแผนนี้ให้ความคุ้มครองค่าห้องสูงสุดถึง 5,000 บาทต่อวัน และมีจุดเด่นคือจะคุ้มครองค่าห้อง ICU เป็น 2 เท่า ของวงเงินค่าห้องปกติ (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)

4. แผน AIA Health Saver (เอไอเอ เฮลธ์ เซฟเวอร์)

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ราคาประหยัด ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณหมดห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล แม้ไม่มีสวัสดิการอื่น ๆ หรือต้องการเสริมความคุ้มครองที่มีอยู่ ด้วยจุดเด่นของแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองแบบจ่ายตามจริง และมีวงเงินให้เลือกหลากหลาย พร้อมมอบความอุ่นใจเพิ่มขึ้น ด้วยการเบิ้ลความคุ้มครองเป็น 2 เท่า สำหรับ 6 โรคร้ายแรงยอดฮิต และมอบความคุ้มครองค่าห้องสูงสุดถึง 4,000 บาทต่อคืน จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนวัยทำงานหรือผู้ที่มองหาประกันสุขภาพที่เข้าถึงง่ายและให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม

5. แผน AIA Infinite Care (เอไอเอ อินฟินิท แคร์)

แผนประกันสุขภาพระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการความคุ้มครองครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 120 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมการรักษาทั่วโลก (สามารถเลือกอาณาเขตความคุ้มครองได้ตามความต้องการ) จุดเด่นของแผนนี้ คือ คุ้มครองค่าห้องพักและอาหารสูงสุดถึง 25,000 บาทต่อวัน ซึ่งรองรับการเข้าพักในห้อง VIP หรือ Suite ของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความอุ่นใจสูงสุดในทุกสถานการณ์ของชีวิต

สรุปเรื่องค่าห้องโรงพยาบาลเอกชน

ส่วนใหญ่แล้วค่าห้องพักในโรงพยาบาลเอกชนมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 5,000 ถึง 15,000 บาทต่อคืน ซึ่งเป็นผลจากเงินเฟ้อทางการแพทย์ที่สูงขึ้น การเพิ่มขึ้นของค่าห้องพักนี้ ทำให้ผู้ถือประกันแบบจำกัดวงเงินค่าห้องเดิมมีโอกาสสูงที่จะต้องจ่ายส่วนต่างเองเมื่อเข้ารับการรักษา

ดังนั้นการเลือกซื้อประกันสุขภาพจึงควรเน้นแผนที่วงเงินค่าห้องสูง หรือแบบเหมาจ่ายที่มีความยืดหยุ่นกว่า มีวงเงินคุ้มครองทั้งค่าห้องปกติและค่าห้อง ICU เพื่อให้มั่นใจว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในโรงพยาบาลที่คุณจะเลือกรักษาได้

หากคุณต้องการออกแบบแผนประกันสุขภาพ AIA ที่ครอบคลุมค่าห้องในโรงพยาบาลที่คุณต้องการอย่างแท้จริง ติดต่อ นุ่น ตัวแทนประกันชีวิต AIA เพื่อช่วงวางแผนประกันที่เหมาะสมได้เลย! โทร. 065-954-1646